15 สิ่งที่นักวิ่งควรรู้

สำหรับคนที่ชอบวิ่ง ควรรู้เพื่อเป็นฐานความรู้เบื้องต้น มีดังนี้

1) ตรวจสอบสภาพรองเท้าวิ่งของคุณ  ว่ามันเก่าเกินไปหรือเปล่า  รองเท้าวิ่งที่ใช้งานได้ดีควรอยู่ที่ประมาณ  600 กิโลเมตรหรือประมาณ  6 เดือน  หากรู้สึกว่าน่าจะเกินแล้วควรพิจารณาซื้อรองเท้าคู่ใหม่ 

 2) เมื่อวิ่งบนถนน ให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นรถหรือการสัญจรต่างๆ

 3) หากคุณกำลังวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า ควรมีการปรับความชันเพิ่ม  1% เพื่อเลียนแบบการวิ่งข้างนอก  เพราะที่จริงแล้วการวิ่งบนลู่วิ่งนั้นง่ายกว่าเพราะไม่มีแรงต้านทานลมและลู่วิ่งก็เคลื่อนที่ช่วยอีก

 4) ความต่อเนื่องในการฝึกซ้อมเป็น key สำคัญ  โค้ชระดับโลกได้กล่าวว่า  "ถ้าคุณสามารถวิ่งได้สี่วันต่อสัปดาห์ทุกสัปดาห์คุณจะได้รับประโยชน์  90% จากการฝึกซ้อมเจ็ดวันต่อสัปดาห์"

 5) ความรู้สึกปวดเมื่อยหลังจากวิ่งเป็นเรื่องปกติ  บ่อยครั้งที่ความปวดเมื่อยอาจออกอาการรุนแรงในวันที่สองหลังจากการวิ่งหนัก  การใช้ลูกกลิ้งโฟมหรือการประคบเย็นต่างๆจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้อย่างมาก

 6) วันพักมีความสำคัญพอๆกับวันวิ่ง  ให้มั่นใจว่ามีวันพักรวมอยู่ในตารางซ้อมของคุณเพื่อให้ร่างกายของคุณฟื้นตัวและปรับตัว  นี่คือวิธีที่จะช่วยให้คุณพัฒนา  ซ้อมให้เต็มที่ในวันที่ต้องซ้อมหนักจากนั้นพักผ่อนร่างกายและทำซ้ำแบบนี้ในแต่ละสัปดาห์

 7) การขาดซ้อม หากคุณขาดซ้อมวิ่ง  1 ครั้งในสัปดาห์สามารถซ้อมต่อตามตารางซ้อมที่กำหนดไว้ได้  หากคุณขาดซ้อมวิ่ง  2 ครั้งติดต่อกันให้ลดการวิ่งครั้งต่อไปลง  15%  หากคุณขาดการซ้อมวิ่ง  3 ครั้งติดต่อกันให้ปรึกษาโค้ชหรือนักวิ่งที่มีประสบการณ์

 8) คุณสามารถยกระดับการวิ่งให้วิ่งได้ดีขึ้น โดยต้องมีการฝึกด้านความเร็วจากนั้นก็เพิ่มระยะทางโดยการฝึกเพื่อพัฒนาความเร็วคือการฝึก  interval หรือ  fastlek นั่นเอง

 9) การนอนหลับ  ถ้าคุณนอนอย่างน้อย  8 ชั่วโมงต่อคืน  ร่างกายของคุณจะฟื้นตัวในขณะที่คุณหลับ  ซึ่งการนอนหลับพักผ่อนเป็นเครื่องมือการ  Recovery ร่างกายที่มีประสิทธิภาพที่สุดรองลงมาคือโภชนาการที่ดี

 10) บ่อยครั้งที่คุณรู้สึกว่าการไม่วิ่งเป็นเรื่องปกติโดยอาจจะแต่งตัวใส่รองเท้าวิ่งแล้วบอกตัวเองว่าจะเดินหรือวิ่งซัก  2 - 3 กิโลเมตร  แต่จริงๆแล้วเมื่อคุณแต่งตัวและออกจากบ้านแรงจูงใจและ  passion จะมาเอง

 11) การซ้อมในช่วงฤดูหนาวดีกว่าในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากความร้อนของอากาศการสูญเสียเหงื่อและความต้องการน้ำของร่างกายจะแตกต่างกันมาก

 12) ให้หานักวิ่งคู่หูหรือวิ่งเป็นกลุ่ม  หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้การวิ่งของคุณพัฒนาได้เร็วคือการหาเพื่อนวิ่งที่จะวิ่งไปด้วยกัน  เพราะพวกเขาจะกระตุ้นให้คุณพยายามวิ่งเกาะกลุ่มและไปกับกลุ่มให้ได้จนจบ

 13) การผสมผสานความเร็ว  ในวันที่คุณรู้สึกดีให้วิ่งเร็วขึ้นเล็กน้อย  ในวันที่คุณเจ็บ  จงให้ร่างกายของคุณบอกคุณว่าควรวิ่งเร็วแค่ไหน

 14) กินหรือดื่มอะไรหลังจากวิ่ง  ช่วงการกินที่ดีที่สุดคือภายใน  30 นาทีหลังจากออกกำลังกาย  ร่างกายของคุณต้องการสารอาหารเพื่อฟื้นฟู  เป็นการดีที่สุดเสมอที่จะได้รับสารอาหารจากอาหารในช่วงเวลาดังกล่าว  เช่น  กล้วย  เนย  ถั่วและแซนวิช

 15) ลองเก็บบันทึกข้อมูลการวิ่งทั้งหมดของคุณ  สิ่งนี้อาจเป็นแรงจูงใจอย่างยิ่งเวลาที่เรากลับมาดูโดยข้อมูลที่ควรเก็บได้แก่ระยะทาง, เวลา, ความรู้สึกและสภาพอากาศเป็นต้น

มีอีกอย่างที่ควรเก็บบันทึกอย่างยิ่งและจะเป็นแรงบันดาลใจได้ดีมากๆอีกอย่าง นั่นก็คือ  รูปถ่ายสวยๆ  หล่อๆ  ของเราที่เราถ่ายไว้โม้อวดเพื่อนๆของเรานั่นเอง

เรียบเรียงโดย  runnology