ศัพท์นักวิ่ง นักวิ่งหน้าใหม่รู้กันยัง

DNS(ดีเอ็นเอส) : มาจากคำเต็มว่า Did Not Start หมายถึง สมัครงานวิ่งไว้แล้ว แต่เราไม่ได้ไปวิ่ง เช่น ป่วย บาดเจ็บ เท หรือตื่นไปวิ่งไม่ทัน เป็นต้น

DNF(ดีเอ็นเอฟ) : มาจากคำเต็มว่า Did Not Finish หมายถึง เมื่อลงแข่งขันแล้ว แต่วิ่งไม่จบให้ถึงเส้นชัย เช่น เกิดตะคริว เหนื่อยและไม่วิ่งต่อแล้ว หรือ หลงทาง จนไม่สามารถไปถึงเส้นชัยได้ 

Pace (เพซ) : เวลาที่ใช้วิ่งต่อ 1 กิโลเมตร หรือ ต่อ 1 ไมล์ ถ้าหน่วยเป็นกิโลเมตร เช่น 1 กิโลเมตรวิ่งได้ 8 นาที เราจะเรียกว่า เพซ 8 แต่ถ้าวิ่ง  pace 8:45 นั่นแปลว่า เวลาใช้ในการวิ่ง 1 กิโลเมตร เท่ากับ 8 นาที 45 วินาที 

Pacer (เพซเซอร์) : ผู้ที่ทำหน้าที่เหมือนนาฬิกาเคลื่อนที่ และ จะพานักวิ่งเข้าเส้นชัยตามระยะเวลาที่กำหนด โดยจะมีสัญลักษณ์ให้นักวิ่งทั่วไปเห็น เช่นแขวนลูกโป่งที่มีตัวเลข เช่น ระยะมินิมาราธอน  70, 80, 90 ระยะฮาร์ฟ 1.45, 2.00, 2.30 ระยะมาราธอน 4.00, 4.30, 5.00 เป็นต้น

ติดลูกโป่ง 90 ของงานวิ่งมินิมาราธอน นั่นแปลว่าเพชเชอร์จะใช้เวลาวิ่งเริ่มจากจุดสตราท์ถึงเส้นชัยใช้เวลา90นาที ในระยะทาง10กิโลเมตร และวิ่งด้วยอัตราเร็วเฉลี่ย กิโลเมตรละ 9 นาที  ใครที่อยากวิ่งเวลาเวลานี้  ก็สามารถวิ่งตามได้เลย 

 Bib (บิบ) : เบอร์วิ่งหรือเลขประจำตัวนักวิ่ง จะมีเลขต่างๆ บนผืนผ้าหรือกระดาษซึ่งจะประกอบด้วย ข้อมูลของนักวิ่ง ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ-นามสกุล อายุ ระยะทางที่วิ่ง เวลาปล่อยตัว  บางงานจะมีบล้อค เข้ามาด้วย 

PB (พีบี) : มาจากคำเต็มว่า Personal Best คือสถิติส่วนบุคคลที่ดีที่สุดในการวิ่ง เช่น ถ้ามีคนถามว่า PB 10K ของเราเท่าไร คำตอบนั้นหาได้จาก เวลาที่ใช้ในการวิ่งที่ดีที่สุดระยะ 10 K เป็นเท่าไร หากเวลาที่ดีที่สุดของเราคือเวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที คำตอบของเราคือ 1 ชั่งโมง 15 นาที นั่นเอง

NewPB (นิวพีบี) : มาจากคำเต็มว่า New Personal Best เวลาที่เร็วกว่าสถิติส่วนบุคคลคือเวลาที่วิ่งเร็วที่สุดในทุกระยะทาง เช่น ปกติวิ่ง 10กิโลเมตร ได้ เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที ถ้าวิ่งแล้ว เร็วกว่าสถิติเดิม เช่นได้เวลา 59 นาที เรียกว่า ได้ NewPB เราก็ไปโม้กับเพื่อนได้ว่า วันนี้เราวิ่งได้ NewPB ด้วยเว้ย

Chip time (ชิพ ไทม์) : เป็นเวลาบอกสถิติการวิ่งของแต่ละบุคคล ชิพทามจะอยู่ด้านหลังของบิบ โดยจะเริ่มจับเวลาเมื่อเราออกจากจุดสตาร์ท และสิ้นสุดเมื่อเราวิ่งถึงเส้นชัย ฉะนั้นเวลาของชิพ ทาม จะเป็นเวลาที่ตรงกับการ start ของตัวเรา - finish ของตัวเรา

Gun time (กัน ไทม์) : เป็นเวลาสถิติการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เริ่มจับเมื่อมีการปล่อยตัวนักวิ่งกลุ่มแรก และใช้สำหรับการจัดอันดับผลการแข่งขันของรายการ ฉะนั้น เวลา gun time จะนับจาก start ของนักวิ่งกลุ่มแรก - finish ของตัวเรา

Cutoff (คัตออฟ) : คือเวลา maximum ที่ผู้จัดการแข่งขันกำหนดขึ้นมาในแต่ละระยะการแข่งขัน เช่น 10K cut off ภายใน 2 ชั่วโมง 30 นาที หมายถึง นักวิ่งทุกคนควรจะวิ่งให้จบภายใน 2 ชั่วโมง 30 นาที ถ้าไม่จบทางผู้จัดอาจจะมีรถตามเก็บนักวิ่งที่ยังไม่จบนี้เพื่อพากลับไปยังเส้นชัย 

คำกล่าวที่ว่า 

“วิ่งแค่ให้ทัน cut off” ก็หมายถึง วิ่งให้จบทันเวลา maximum ที่ทางผู้จัดกำหนดไว้ในแต่ละระยะนั่นเอง

“ไม่ทัน cut off” ก็หมายถึง วิ่งจบไม่ทันเวลา maximum ที่ทางผู้จัดกำหนดไว้ในแต่ละระยะนั่นเอง

(เวลา Cut-off จะนับจาก Gun time หรือเวลาเริ่มปล่อยตัว) 

Sweeper (สวิปเปอร์) : บุคคลที่อยู่หลังนักวิ่งและส่วนมากจะอยู่กับนักวิ่งคนสุดท้ายของงาน และไม่ต้องรักษาเวลาเหมือนเพชเชอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีนักวิ่งถูกทิ้งไว้กลางงาน จะคอยให้กำลังใจ สร้างสีสันให้นักวิ่งมีแรงวิ่งให้ถึงเส้นชัย 

Check point(เช็คพอยท์) : คือสิ่งที่เอาไว้ตรวจสอบนักวิ่งว่าวิ่งถูกทาง หรือมีการลัดเส้นทางหรือไม่ บางงานจะมีแจกเป็นหนังยาง ส่วนมากจะอยู่จุดครึ่งทางของระยะ จะมีคนคอยแจก  สัญลักษณ์ต่างๆ ถ้างานใหญ่ๆมาตรฐานดีๆจะสามารถเช็คได้จาก ชิพทาม ที่อยู่ด้านหลังบิบ พอถึงจุดเช็คพ้อยท์จะมีเสียงดัง ตี๊ดๆ นั่นแปลว่าเราถึงจุดเช็คพ้อยท์ 

ข้อสังเกตว่านั่นคือจุดเช็คพ้อยท์หรือไม่ กรณีเป็น ชิพ ทาม จะสังเกตได้จากจุดที่มีแผงพลาสติกคล้ายลูกระนาดบนถนนขวางอยู่ เมื่อเห็นให้เราวิ่งข้ามผ่านบนลูกระนาดนั้นได้เลย ไม่ควรวิ่งหลบออกข้าง เพราะอาจจะทำให้ เซ็นเซอร์ ไม่ได้อ่าน ชิพ ทาม ของเรา จะส่งผลให้ผลการแข่งขันของเราขาดความสมบูรณ์ได้

รูป: iStock

เรียบเรียงโดย คันเทวุน